ใครที่ดื่มน้ำน้อยมาดื่มน้ำรักษาโรคกันเถอะ
Share: facebook_share ใครที่ดื่มน้ำน้อยมาดื่มน้ำรักษาโรคกันเถอะ line_share ใครที่ดื่มน้ำน้อยมาดื่มน้ำรักษาโรคกันเถอะ twitter_share ใครที่ดื่มน้ำน้อยมาดื่มน้ำรักษาโรคกันเถอะ messenger_share ใครที่ดื่มน้ำน้อยมาดื่มน้ำรักษาโรคกันเถอะ

ใครที่ดื่มน้ำน้อยมาดื่มน้ำรักษาโรคกันเถอะ


มนุษย์นั้น หล่อเลี้ยงภายในร่างกาย ด้วยน้ำในร่างกาย เป็นส่วนใหญ่ น้ำจึงเป็นสิ่งสำคัญ ในชีวิตยิ่งดื่มน้ำสะอาด หรือน้ำด่าง ที่ดีต่อร่างกาย เสริมร่างกายให้ดีต่อสุขภาพ ดื่มน้ำรักษาโรค อาจจะไม่เห็นผลเร็ววัน แต่ดีต่อสุขภาพแน่

 

 

 

น้ำเปล่า หรือน้ำสะอาด สามารถรักษาโรคได้จริง ๆ แถมยังเป็นโรค ที่ใครหลายคน ประสบพบเจอมาด้วย จะต้องดื่มน้ำเปล่า หรือน้ำสะอาดอย่างไร เท่าไร แล้วรักษาโรคอะไรได้บ้าง เรามีคำตอบมาให้ครับ

 

 

 คนเราควร ดื่มน้ำให้ได้วันละ ( 8 - 12 ) แก้วต่อวัน เป็นอย่างต่ำ อย่างน้อยก็ต้องดื่ม 500 มิลลิลิตร ( 500 ml. ) เพราะการดื่มน้ำนั้น จะช่วยลดความเสี่ยง ของโรคร้าย ที่อาจจะเกิดขึ้น ได้กับตัวคุณ ซึ่งการลดความเสี่ยงที่ว่านี้ คุณสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่ดื่มน้ำ ให้มากขึ้นต่อวัน

 

 

     หน้าที่สำคัญที่สุด ของน้ำ คือ เป็นตัวกลางในการ เกิดปฏิกิริยา เคมีทุกชนิด ในกระบวนการ เมตาบอลิซึม ( Metabolism ) คือ กระบวนการทางเคมี ที่ช่วยให้ร่างกายทำงาน ได้ตามปกติ หรือสามารถรักษาภาวะต่าง ๆ ภายในร่างกายให้คงที่ ( Homeostasis ) กระบวนดังกล่าว ประกอบด้วยการ ย่อยสารอาหาร จากอาหาร และเครื่องดื่ม ที่บริโภคเข้าไป และการเสริมสร้าง และซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย ของร่างกาย ปฏิกิริยาเคมีในร่างกาย ทุกชนิดต้องอาศัยน้ำ เซลล์จะไม่สามารถ ทำงานได้ ถ้าไม่มีน้ำ ตัวอย่างที่เห็น ได้ชัดเจน ได้แก่ กระบวนการ การย่อยอาหาร กระบวนการ ดูดซึมอาหาร และกระบวนการ ขับถ่าย ของเสียออกจาก ร่างกายของเรานั่นเอง

 

 

 

1 ท้องผูก ( constipation )

 

ง่าย ๆ ก็เริ่มที่อาการท้องผูก ( constipation ) ที่ใครหลายคน ต้องเคยประสบกับปัญหานี้ มาไม่มากก็น้อย สาเหตุของอาการท้องผูก มักมาจากอาหารการกิน ที่เราทานเข้าไป ทำให้อุจจาระของ เราขาดความอ่อนนุ่ม อัดรวมเป็นก้อนแข็งใหญ่ ทำให้ถ่ายลำบาก การดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้น จะช่วยให้อาการท้องผูก ลดลงได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะการดื่มน้ำอุ่น ทำให้ถ่ายได้สบายมากเลย

 ในตอนเช้าหากเราดื่ม 1 แก้ว ทันทีหลังตื่นนอน บอกได้เลยว่า ท้องของเราจะรับรู้ ได้ถึงพลังมาก และถ่ายเป็นเวลาอีกด้วย

 

 

 

2 ปวดศีรษะ / ไมเกรน ( Headache / migraine )

 

ใครที่มีอาการปวดศีรษะ หรือปวดไมเกรน เป็นโรคประจำตัวอยู่แล้ว หากไม่อยากมี อาการปวดบ่อย ๆ หรือไม่อยากทานยาบ่อย ๆ สามารถจิบน้ำเปล่า ระหว่างวันได้ ช่วยลดอาการ ปวดศีรษะได้ดีเลยทีเดียว

 

 

 

3 ความดันโลหิตสูง ( High blood pressure )

 

การดื่มน้ำน้อยเกินไป ทำให้เลือดของเราข้น ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิต ในร่างกายทำงานหนักขึ้นไปด้วย นั่นจึงทำให้หลอดเลือด มีความดันมากขึ้น จนอาจทำให้ ความดันโลหิตสูงขึ้น หรือคนที่มีอาการความดันโลหิตสูง ( High blood pressure ) อยู่แล้วก็อาจมีอาการหนักขึ้นได้ เพราะฉะนั้นหากเราดื่มน้ำ ให้เพียงพอในแต่ละวัน ก็จะช่วยให้ระบบ ไหลเวียนโลหิต ทำงานได้ง่ายขึ้น

 

 

 

4 โรคริดสีดวงทวาร ( Hemorrhoids )

 

ต่อจากอาการท้องผูก หากอุจจาระอ่อนนุ่มลง เราก็จะมีโอกาสเป็น โรคริดสีดวงทวาร ( Hemorrhoids ) น้อยลงเช่นกัน เพราะฉะนั้นหาก ไม่อยากเป็น โรคริดสีดวงทวาร นอกจากการเลือกทานอาหาร ที่มีกากใยอาหารสูง ลดการทานอาหารที่มีแป้ง และไขมันสูงแล้ว ควรดื่มน้ำเปล่า ให้เพียงพอในแต่ละวันด้วย

 

 

 

5 ปวดข้อ ( Joint pain )

 

อาการปวดข้อ ( Joint pain ) มักตามมากับ โรคอ้วน ( Obesity ) เพราะน้ำหนักตัวที่มากเกินไป และน้ำในข้อน้อย จึงทำให้ข้อต่าง ๆ เช่น ข้อเข่า ข้อเท้า ข้อมือ ข้อแขน ข้อไหล่แห้ง ฝืดเคือง ขยับได้ไม่คล่อง การเติมความชุ่มชื้น ให้กับเนื้อเยื่อ บริเวณข้อต่อ ทำได้ง่าย ๆ เพียงดื่มน้ำให้มากขึ้น อาการอักเสบ หรือบวมปวด ก็จะน้อยลง

 

 

 

การดื่มน้ำรักษาโรค แถบจะไม่มีใครรู้จัก เลยด้วยซ้ำ อาการดื่มน้ำระหว่างวันมาก แต่ทำให้เราปวดท้อง หรือท้องเสียนั้น ไม่อาการร้ายแรงอะไร เป็นกระบวนการของน้ำ กำลังขับถ่ายของเสีย และพิษออกไปนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ดื่มน้ำให้ได้พอดีร่างกาย ต่อวันนะครับผม

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ดื่มน้ำเพื่อสุขภาพ ดื่ม น้ำอัลคาไลน์

น้ำดื่มคลายร้อน ช่วงหน้าร้อน

ดื่มน้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water )ก่อนมื้ออาหารเพื่อลดอ้วน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก sanook


Tag :


บทความที่แนะนำ