เสียเวลากับการนั่งปล่อยทุกข์ในช่วงเช้า กว่าจะได้ออกจากห้องน้ำ ปัญหาเหล่านี้ มองข้ามไม่ได้นะคะ เสี่ยงเป็น อาการท้องผูกได้ ดังนั้น น้ำดื่มอัลคาไลน์ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ตัวช่วยในระบบขับถ่าย
น้ำดื่มอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) หรือ ที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า น้ำด่าง คือ น้ำดื่มสะอาดที่มีค่า pH เป็นด่าง หรือ เป็นเบส ประกอบด้วยแร่ธาตุสารอาหารต่างๆ ที่ร่างกายต้องการ เช่น โซเดียม แมกนีเซียม และ โพแทสเซียม ผสมอยู่ในน้ำ ไม่มีแร่ธาตุจำพวกโลหะหนักผสมอยู่ ความที่น้ำมีสภาพเป็นด่าง จึงมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆ เพราะด้วยความที่เป็น น้ำด่าง ทำให้ซึมเข้าไปจับไขมันส่วนเกิน ดังนั้น การดื่มน้ำด่าง หรือ น้ำดื่มอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) สามารถบรรเทาอาการ โรคท้องผูกได้
การดื่ม น้ำดื่มอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) ควรดื่มในปริมาณที่พอดีแก่ร่างกาย หากดื่ม น้ำด่าง ที่มีค่า pH มากเกินไป ย่อมส่งผลเสียต่ออวัยวะภายในของเราได้ เช่น ไต เพราะการดื่มน้ำด่างมากเกินไปจะทำให้ ไต อาจส่งผลต่อการทำงานในเรื่องของประสิทธิภาพในการทำงานได้ การดื่มน้ำด่างควรให้ pH อยู่ระหว่าง 8 - 9 ที่สำคัญไม่ควรดื่มในปริมาณมากภายในระยะเวลาน้อยครั้ง เช่น ดื่มน้ำด่างรวดเดียว 8 แก้ว ภายใน 1 - 2 ชม. เพราะร่างกายจะปรับสภาพกรดด่างได้ไม่ทัน
โรคท้องผูก ( Constipation )
อาการ โรคท้องผูก
1. เวลาถ่ายอุจจาระ ต้องเบ่งมากกว่าปกติ
2. อุจจาระเป็นก้อนแข็งกว่าปกติ
3. รู้สึกถ่ายอุจจาระไม่สุด
4. ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์
5. มีความรู้สึกว่าถ่ายไม่ออก เนื่องจากมีสิ่งอุดกั้นบริเวณทวารหนัก
6. หากใช้นิ้วมือช่วยในการถ่ายอุจจาระ หากมีอาการนานกว่า 3 - 6 เดือน เตรียมใจเป็น โรคท้องผูกเรื้อรัง ได้เลยค่ะ
โรคท้องผูก ( Constipation ) เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง ?
1. โรค ได้แก่ ต่อมไทรอยด์ เบาหวาน โรคทางระบบประสาททำงานน้อยกว่าปกติ แคลเซียมในเลือดสูง
2. ยาที่รับประทานประจำ พบว่ายา ที่อาจทำให้เกิดท้องผูกบ่อย
นั่นคือ กลุ่มยาทางจิตเวช ยาลดการบีบเกร็งของลำไส้ที่ใช้แก้ปวดท้อง ยาที่รักษาอาการซึมเศร้า เช่น ยาแก้ปวด Buscopan ยารักษาโรคพาร์กินสัน ยาแก้แพ้ Chlorpheniramine ( CPM ) ยาลดความดันโลหิต ได้แก่ Verapamil, Diltiazem, Clonidine หรือ วิตามินเสริมที่มีส่วนผสมของ Calcium, Aluminium ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs เช่น Diclofenac, Piroxicam และ Indometracin
3. สาเหตุที่เกิดจากการทำงานของลำไส้ หรือ กล้ามเนื้อที่ควบคุมการขับถ่ายผิดปกติ ได้แก่ การเบ่งไม่เป็นโดยมีการบีบตัวของกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนักไม่ประสานกับการเบ่ง การเคลื่อนไหวของลำไส้ใหญ่น้อยกว่าปกติหรือมีการเคลื่อนไหวไม่ประสานกันทำให้อุจจาระเคลื่อนไหวภายในลำไส้ใหญ่ช้ากว่าปกติ และ ภาวะลำไส้แปรปรวน
4. การอุดกั้นของลำไส้ ทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ ซึ่งภาวะดังกล่าว ความผิดปกติที่ทวารหนัก เช่น ทวารหนักกลืนกัน ทวารหนักปลิ้น ทวารหนัก เป็นกระเปาะยื่นเข้าช่องคลอด (ในสตรี) หรือ รูทวารหนักตีบตัน มีการลดน้อยลงของปมประสาท บริเวณลำไส้ใหญ่มาแต่กำเนิด ( Hirschprung’s disease )
เมื่อไรที่ผู้ป่วยอาการ โรคท้องผูก ( Constipation ) ควรไปพบแพทย์
การขับถ่ายเป็นเรื่องยาก และหลายครั้งที่จะต้องอยู่ในห้องน้ำเป็นเวลานานหลายชั่วโมง เพื่อเบ่งถ่ายอุจจาระมาก หรือ เบ่งยาก อุจจาระแข็ง ลักษณะเป็นเม็ดกระสุน หรือ เป็นก้อนแข็ง บางครั้งต้องใช้นิ้วล้วงช่วย ทำให้ถ่ายไม่สุดเหมือนมีอะไรมาอุดกั้นอยู่ รู้สึกอึดอัดแน่นท้อง
ปล่อยไว้นาน โรคท้องผูก ( Constipation ) อาจส่งผลเสียต่อร่างกาย
ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ วันละ 2 ลิตร แนะนำการดื่มน้ำ ช่วงตื่นนอน จะช่วยให้การขับถ่ายของเสียของร่างกาย ได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ควรดื่มน้ำอุ่น น้ำที่อุณหภูมิห้อง หรือ จะเลือกดื่มน้ำ น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) น้ำด่าง ตัวช่วยบรรเทาอาการท้องผูก อีกทั้งยังช่วยให้สามารถขับถ่ายง่ายขึ้น ถ่ายคล่อง
ด้วยความปรารถนาดีจาก น้ำดื่มอัลคาไลน์ ( น้ำด่าง ) ตราแมนเนเจอร์ ( Alkaline Water pH8.5+ By ManNature )
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่
Tag :
บทความที่แนะนำ