ดื่มน้ำไม่พอ เสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง
Share: facebook_share ดื่มน้ำไม่พอ เสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง line_share ดื่มน้ำไม่พอ เสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง twitter_share ดื่มน้ำไม่พอ เสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง messenger_share ดื่มน้ำไม่พอ เสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง

ดื่มน้ำไม่พอ เสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง


หากร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ จะส่งผลให้ร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำ มีผลกระทบต่ออวัยวะสำคัญหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมองและหัวใจ และอาจเกิดโรคต่าง ๆ ตามมารวมไปถึงมะเร็ง แต่ถ้าคุณดื่ม “น้ำดื่มอัลคาไลน์ (น้ำด่าง)” จะสามารถช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติและช่วยต่อต้านโรคภัยต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

 

     ตามปกติร่างกายผู้ใหญ่จะต้องการน้ำประมาณวันละ 1.5 – 2 ลิตร นั่นหมายความว่า ถ้าดื่มน้ำแค่วันละ 1 ลิตร จะทำให้ขาดน้ำถึง ร้อยละ 30 – 50 การที่น้ำขาดหายไปร้อยละ 30 ไม่ได้หมายความว่าอวัยวะและเซลล์ทุกส่วนในร่างกายจะเฉลี่ยกันขาดน้ำ เพราะร่างกายจะส่งน้ำไปตามอวัยวะต่าง ๆ ตามลำดับความสำคัญต่อการดำรงชีพ ดังนั้น หากน้ำหายไปร้อยละ 30 เซลล์ที่ถูกจัดความสำคัญอยู่ในลำดับท้าย ๆ จะอยู่ในภาวะขาดน้ำนั่นเอง และเมื่อร่างกายขาดน้ำจึงจำกัดการไหลของเลือดไปยังเส้นรอบนอก และจะส่งน้ำไปให้ส่วนที่สำคัญกว่าก่อน นอกจากนี้ยังรักษาระดับความดันของเลือดที่ข้นขึ้นจากการขาดน้ำให้คงที่ด้วย เมื่อการไหลเวียนของเลือดลดลง นอกจากจะทำให้การลำเลียงสารอาหารและออกซิเจนไปยังเซลล์ต่าง ๆ ติดขัดแล้ว ยังทำให้ไม่สามารถขับสารพิษออกจากเซลล์ได้ด้วย

 

     ถึงแม้ว่าร่างกายของมนุษย์จะมีกลไกที่ช่วยให้ทนต่อความหิวโหยจากการขาดอาหารและน้ำได้ในระดับหนึ่ง โดยถ้าขาดเพียงเล็กน้อยเซลล์จะยังไม่ตายในทันที แต่หากขาดน้ำติดต่อกันนาน ๆ เซลล์จะไม่สามารถสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์เก่าได้ รวมถึงทำงานได้ไม่เต็มที่ ซึ่งเซลล์ที่ไม่สามารถขับสารพิษออกได้และทำงานได้ไม่เต็มที่นั้นจะส่งผลให้เกิดความผิดปกติในหน่วยพันธุกรรมและอาจกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้นั่นเอง

 

     ในขณะที่บางคนอาจไม่เชื่อว่าการได้รับน้ำไม่พอจะมีอันตรายถึงกับทำให้เป็นมะเร็งได้ แต่นี่เป็นเรื่องจริงจาก ชายชาวญี่ปุ่นวัย 23 ปี นครชิคาโก ได้มาขอคำแนะนำเรื่องการรักษา โดยเขาเป็นมะเร็งหลอดอาหารและกระเพาะที่ต้องทนทรมานกับการกลืนอาหารไม่ค่อยได้ ซึ่งจากประสบการณ์ในการรักษาของแพทย์ทำให้เกิดความสงสัยว่าเขาน่าจะขาดน้ำ และจากผลการตรวจดูเซลล์ด้วยกล้องจุลทรรศน์ พบว่า เซลล์อยู่ในภาวะขาดน้ำ และเมื่อถามอย่างละเอียด ก็พบว่า เขาไม่เคยดื่มน้ำเปล่าเลย สิ่งที่เขาดื่ม ก็คือ น้ำอัดลม ซึ่งมีสารกาเฟอีนที่มีฤทธิ์ขับน้ำออกจากร่างกาย ซึ่งเขาดื่มทุกวัน วันละ 7 - 8 ขวด เลยทีเดียว

 

     จากการซักประวัติคนไข้รายนี้ ทำให้รู้ว่าการได้รับน้ำอย่างเพียงพอมีความสำคัญแค่ไหน คนที่เป็นโรคมะเร็งส่วนใหญ่มักดื่มน้ำน้อย ซึ่งแพทย์จะแนะนำให้คนไข้ที่ได้รับการผ่าตัดโรคมะเร็งให้ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มะเร็งกลับมาเป็นซ้ำในภายหลัง และสำหรับคนที่แข็งแรงดี ควรดื่มน้ำให้ได้ วันละ 1.5 – 2 ลิตร ส่วนคนเป็นมะเร็งถ้าไม่มีโรคเกี่ยวกับไตให้ดื่มวันละ 2 - 3 ลิตร

 

     ในสหรัฐอเมริกามีการรักษาแบบแพทย์ทางเลือกมากมายหลายวิธี ซึ่งหนึ่งในทางเลือกที่กำลังนิยมกันอยู่นั้นคือ “การรักษาโรคด้วยการดื่มน้ำ” ซึ่งผู้ที่นำเสนอวิธีรักษาโรคด้วยการดื่มน้ำ คือ เฟรีดูน แบทแมนเกลิดจ์ แพทย์ชาวอิหร่าน ซึ่งเขาทำการวิจัยทางการแพทย์ว่า น้ำมีความสำคัญต่อร่างกายมนุษย์อย่างไร และออกมายืนยันว่า ความเจ็บปวดเกือบทั้งหมดขอคนในปัจจุบัน มีสาเหตุมาจากเซลล์ในร่างกายขาดน้ำเรื้อรังเป็นเวลานาน ทำให้ไม่สามารถสร้างเซลล์ใหม่แทนเซลล์เก่าได้อย่างเต็มที่ และวิธีการรักษาโรคด้วยการดื่มน้ำของเขาสามารถช่วยคนจำนวนมากที่ทุกข์ทรมานจากโรคเรื้อรัง ให้หลุดพ้นจากความทุกข์ดังกล่าวได้

 

     ดังนั้นแล้วควรดื่มน้ำให้ ได้วันละ 1.5 – 2 ลิตร เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอ เพราะถ้าเซลล์ขาดน้ำจะทำให้ร่างกายเกิดปัญหามากมาย หรือจะลองดื่ม “น้ำดื่มอัลคาไลน์ (น้ำด่าง) ตราแมนเนเจอร์” (Alkaline Water pH8.5+ By ManNature) น้ำดื่มสะอาดที่มีคุณภาพและมีความเป็นด่างอ่อน ๆ ที่ประกอบไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ มากมายที่ร่างกายต้องการ ช่วยปรับสมดุลสภาพความเป็นกรด-ด่างภายในร่างกายให้อยู่ในสภาวะที่เหมาะสม ทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ ช่วยให้ร่างกายสามารถต่อต้านโรคภัยต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

 

สุขภาพที่ดี เริ่มได้ที่ตัวคุณ ด้วยความปรารถนาดีจาก   น้ำดื่มอัลคาไลน์ (น้ำด่าง) ตราแมนเนเจอร์ (Alkaline Water pH8.5+ By ManNature)

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก mgronline

อ่านบทความเพิ่มเติม

น้ำที่ไม่ควรดื่มเป็นแบบไหน

น้ำอัลคาไลน์ ช่วยสร้างความ ชุ่มชื่น ให้ร่างกาย


Tag :


บทความที่แนะนำ