น้ำอัลคาไลน์ ดื่มอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ

น้ำอัลคาไลน์  ( Alkaline Water ) หรือน้ำด่าง ถือได้ว่าเป็น น้ำดื่มเพื่อสุขภาพ ที่หลายคนพึ่งรู้จักกับน้ำดื่มชนิดนี้ จึงอาจเป็นเรื่องใหม่ สำหรับหลาย ๆ คน ที่ต้องการเลือกดื่ม น้ำอัลคาไลน์ เพื่อสุขภาพ ซึ่งวันนี้เราจะมาบอกถึงหลักในการดื่มน้ำชนิดนี้กันครับ

น้ำอัลคาไลน์ คืออะไร?

น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) หรือ น้ำด่าง เป็นน้ำธรรมชาติ ที่ผ่าน กระบวนการแยก องค์ประกอบทางเคมีของน้ำ โดยใช้ไฟฟ้า เข้ามาเป็นสิ่งที่ช่วย หรือที่เรียกว่า กระบวนการ อิเล็กโทรลิซิส ( Electrolysis ) โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้า โดยตรงไปในน้ำ ผ่านแผ่นตัวนำไฟฟ้าขั้วลบ จึงทำให้ได้ น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) ที่มีแร่ธาตุที่มีความเป็นด่าง ได้แก่ แคลเซียม ( Ca ) , โซเดียม ( Na ) , แมกนีเซียม  (Mg ) และโพแทสเซียม ( K ) ซึ่งแร่ธาตุเหล่านี้ เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

จากการผลิต น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) ที่ผ่านกระบวนการ อิเล็กโทรลิซิส ( Electrolysis ) ทำให้กลุ่มโมเลกุลในน้ำ ลดลง จากปริมาณ 11 - 13 โมเลกุล ต่อกลุ่มน้ำ ให้ลดเหลือ เพียง 6 โมเลกุล ต่อกลุ่มน้ำเท่านั้น นี่จึงเป็นสาเหตุที่ ทำให้ น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline water ) มีขนาดโมเลกุลเล็กกว่าน้ำธรรมดาทั่วไปมาก เมื่อดื่ม น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) เข้าไปสู่ร่างกายแล้ว จะสามารถดูดซึมน้ำเข้าไปยังเซลล์ได้ดีมาก ทำให้ร่างกายได้รับความชุ่มชื้น ดีกว่าเดิม

ดื่มน้ำอัลคาไลน์ อย่างไร ให้สุขภาพดี

การดื่ม น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) หรือ น้ำด่าง ก็เหมือนการดื่มน้ำเปล่าแบบทั่วไป สามารถดื่มทดแทนการดื่มน้ำเปล่าได้ โดยการดื่มน้ำ ในแต่ละวัน สิ่งที่ต้องคำนึงถึง มี 2 ประการหลัก ๆ ประการแรก คือ น้ำดื่มที่เราดื่ม ต้องเป็นน้ำที่มีความสะอาด บริสุทธิ์ มีแร่ธาตุ และมีสภาพของน้ำเป็นกลาง หรือด่างอ่อน ๆ จึงจะดีต่อสุขภาพ ซึ่ง น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) เป็นน้ำที่มี คุณสมบัติเหล่านี้ อย่างแน่นอน และยังมีค่า pH เป็นด่างอ่อน อยู่ที่ 8.0 -9.0 จึงดีต่อร่างกายของมนุษย์ ช่วงในเรื่องของ การปรับสมดุลสภาพกรดด่าง ในร่างกายอีกด้วย

หลักในการดื่มน้ำต่อวัน ที่ต้องคำนึงถึง อีกประการ  ก็คือ ต้องดื่มน้ำให้ได้ปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกาย ในปริมาณ อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน หรืออย่างน้อย 2,000 มิลลิลิตรต่อวัน ซึ่งการดื่มน้ำให้ครบต่อวัน ควรแบ่งการดื่มให้ได้ตลอดวัน และมีคำแนะนำในการดื่มน้ำแต่ละช่วง ดังนี้

• ตื่นนอนตอนเช้า ควรจะดื่มน้ำอุ่น เพราะน้ำอุ่น ดื่มง่าย กว่าน้ำธรรมดา และอุณหภูมิของน้ำที่ดื่ม ไม่ต่ำกว่าอุณหภูมิของร่างกาย จึงไม่เป็นการไปดึง อุณหภูมิร่างกายให้เย็นลง หรืออาจเป็นน้ำที่อุณหภูมิห้องก็ได้ ควรดื่ม 1 - 3 แก้ว ให้ได้ อย่างต่ำ 500 - 750 มิลลิลิตร ช่วงเวลาหลังตื่นนอน เป็นช่วงที่มีความเข้มข้น ของเลือดสูง ร่างกาย และเลือด จะมีลักษณะขาดน้ำ  และเพื่อกระตุ้นระบบขับถ่าย

• ช่วง 15 นาที ก่อนอาหาร ระหว่างทานอาหาร และหลังทานอาหาร 30 นาที ทั้ง 3 เวลานี้ ดื่มน้ำรวมกันทั้งหมด ไม่ควรเกินครึ่งแก้ว เพราะหากดื่มน้ำ มากเกินไประหว่าง ทานอาหารจะทำให้ น้ำย่อยในกระเพาะ เจือจางลง ส่งผลต่อระบบ การย่อยอาหาร ร่างกายย่อยอาหาร ได้ไม่ดี

• ช่วงเวลาประมาณ 9 โมง ถึง 10 โมงเช้า ควรดื่มน้ำให้ได้ 2 แก้ว ช่วงนี้เป็นช่วง ที่มีของเสียเกิดขึ้น เพราะร่างกายได้ทํางาน ไประยะหนึ่งแล้ว ควรดื่มน้ำเพื่อมา ชําระของเสีย เหล่านั้นออกไป

• ตลอดทั้งวัน ดื่มน้ำทีละนิด แบบจิบทีละ 2 – 3 อึก จิบบ่อยๆ ดีกว่าการดื่มน้ำ ครั้งละมาก ๆ ในครั้งเดียว เพราะเป็นการเพิ่มภาระ ให้กับระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่าย

• ก่อนนอน ให้ดื่มน้ำอีก 1 - 2 แก้ว ให้ได้ปริมาณมากกว่า 250 มิลลิลิตร เพื่อให้น้ำที่ดื่มไหลเวียน ชะล้างสิ่งตกค้าง ในลําไส้ และกระเพาะอาหาร ถ้าเป็นน้ำอุ่น จะยิ่งช่วยให้ หลับสบายยิ่งขึ้น

การดื่มน้ำ ในแต่ละช่วงเหล่านี้ เราสามารถดื่ม น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ในช่วงใดก็ได้แทนการดื่มน้ำเปล่าได้เลย สำหรับผู้ที่พึ่งเริ่มดื่ม น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) ควรดื่มน้ำอัลคาไลน์ ที่มีค่า pH เกือบจะเป็นกลาง ในปริมาณน้อย ก่อนในสัปดาห์แรก ในบางช่วงของวัน เพื่อให้เวลาร่างกายปรับตัวให้เข้ากับน้ำได้ หากดื่มแล้วไม่มีอาการผิดปกติใด จึงค่อยดื่ม น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water )  ที่มีค่า pH อยู่ที่ 9.0 เป็นประจำได้

สุขภาพที่ดี เริ่มได้ที่ตัวคุณ ด้วยความปรารถนาดีจาก   น้ำดื่มอัลคาไลน์ (น้ำด่าง) ตราแมนเนเจอร์ (Alkaline Water pH8.5+ By ManNature)

อ่านบทความเพิ่มเติม

น้ำดื่มอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) ใช้ทดแทน น้ำในบ้าน

เลือกดื่ม น้ำดื่มอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) ให้ ดีต่อสุขภาพ