น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) ดื่มได้ทุกช่วงเวลา
Share: facebook_share น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) ดื่มได้ทุกช่วงเวลา line_share น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) ดื่มได้ทุกช่วงเวลา twitter_share น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) ดื่มได้ทุกช่วงเวลา messenger_share น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) ดื่มได้ทุกช่วงเวลา

น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) ดื่มได้ทุกช่วงเวลา


การดื่ม น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) หรือ น้ำด่าง อาจเป็นเรื่องใหม่ สำหรับหลาย ๆ คนที่ยังไม่รู้จักน้ำชนิดนี้ ซึ่งน้ำอัลคาไลน์  ถือได้ว่าเป็นน้ำดื่มเพื่อสุขภาพอย่างหนึ่ง ที่สามารถดื่มได้ทดแทนการดื่มน้ำเปล่าได้ ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหนก็ตาม

 

น้ำอัลคาไลน์ คืออะไร?

 

น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) หรือ น้ำด่าง เป็นน้ำธรรมชาติ ที่ผ่าน กระบวนการแยก องค์ประกอบทางเคมีของน้ำ โดยใช้ไฟฟ้า เข้ามาเป็นสิ่งที่ช่วย หรือที่เรียกว่า กระบวนการ อิเล็กโทรลิซิส ( Electrolysis ) โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้า โดยตรงไปในน้ำ ผ่านแผ่นตัวนำไฟฟ้าขั้วลบ จึงทำให้ได้ น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) ที่มีแร่ธาตุที่มีความเป็นด่าง ได้แก่ แคลเซียม, โซเดียม , แมกนีเซียม และโพแทสเซียม ซึ่งแร่ธาตุเหล่านี้ ล้วนเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

 

ในการผลิต น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) ได้ผ่านกระบวนการแยกน้ำด้วยไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า กระบวนการ อิเล็กโทรลิซิส ( Electrolysis ) ทำให้กลุ่มโมเลกุลในน้ำ ลดลง จากปริมาณ 11 - 13 โมเลกุล ต่อกลุ่มน้ำ ให้ลดเหลือ เพียง 6 โมเลกุล ต่อกลุ่มน้ำเท่านั้น นี่จึงเป็นสาเหตุที่ ทำให้ น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline water ) มีขนาดโมเลกุลเล็กกว่าน้ำธรรมดาทั่วไปมาก เมื่อดื่ม น้ำอัลคาไลน์ เข้าไปสู่ร่างกายแล้ว จะสามารถดูดซึมน้ำเข้าไปยังเซลล์ได้ดีมาก ทำให้ร่างกายได้รับความชุ่มชื้นดีกว่าเดิม

 

น้ำอัลคาไลน์ ดื่มได้ทุกช่วงเวลา

 

การดื่ม น้ำอัลคาไลน์ ที่สามารถดื่มได้แทนการดื่มน้ำเปล่า จึงสามารถยึดหลักในการดื่มน้ำต่อวัน ในทุกช่วงเวลา ดังต่อไปนี้

 

  • ดื่มน้ำตอนเช้า หลังตื่นอน ตอนเช้า ควรดื่มน้ำให้ได้ 1-2  แก้ว หรืออย่างน้อย  500 - 750 มิลลิลิตร ( 500 - 700 ml ) เนื่องจาก ช่วงเวลาหลังตื่นนอน เป็นช่วงที่ร่างกายขาดการเติมเต็มน้ำเข้าสู่ร่างกาย จากการนอนหลับพักผ่อนไป 7-10 ชั่วโมง ช่วงหลังตื่นนอน จึงเป็นช่วงที่มีความเข้มข้น ของเลือดสูง ร่างกาย และเลือด จะมีลักษณะขาดน้ำ  และเพื่อกระตุ้นระบบขับถ่าย จึงควรดื่มน้ำในปริมาณที่ได้ให้คำแนะนำ

 

  • ช่วง 15 นาที ก่อนอาหาร ระหว่างทานอาหาร และหลังทานอาหาร 30 นาที ทั้ง 3 เวลานี้ ควรดื่มน้ำ รวมกันทั้งหมด ไม่ควรเกิน ครึ่งแก้ว เพราะหากดื่มน้ำ มากเกินไประหว่าง ทานอาหารจะทำให้ น้ำย่อยในกระเพาะ เจือจางลง ส่งผลต่อระบบ การย่อยอาหาร ร่างกายย่อยอาหาร ได้ไม่ดี

 

  • ช่วงเวลาประมาณ 9 โมง ถึง 10 โมงเช้า ควรดื่มน้ำให้ได้ 2 แก้ว ช่วงนี้เป็นช่วง ที่มีของเสียเกิดขึ้น เพราะร่างกายได้ทํางาน ไประยะหนึ่งแล้ว ควรดื่มน้ำเพื่อมา ชําระของเสีย เหล่านั้นออกไป

 

  • ตลอดทั้งวัน ดื่มน้ำทีละนิด แบบจิบทีละ 2 – 3 อึก จิบบ่อยๆ ดีกว่าการดื่มน้ำ ครั้งละมาก ๆ เพราะเป็นการเพิ่มภาระ ให้กับระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่าย

 

  • ก่อนนอน ให้ดื่มน้ำอีก 1 - 2 แก้ว ให้มากกว่า 250 มิลลิลิตร ( 250 ml ) เพื่อให้น้ำที่ดื่มไหลเวียน ชะล้างสิ่งตกค้าง ในลําไส้ และกระเพาะอาหาร ถ้าเป็นน้ำอุ่น จะยิ่งช่วยให้ หลับสบายยิ่งขึ้น

 

หลักในการดื่มน้ำที่เหล่านี้ ไม่ว่าคุณจะดื่ม น้ำเปล่า หรือดื่ม น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) ก็ต้องหมั่นดื่มเรื่อย ๆ ระหว่างวัน เพราะ ในแต่ละช่วง ร่างกายจะมีการดึงน้ำไปใช้เป็นพลังงาน รวมไปถึง การสูญเสียน้ำ จากการขับถ่ายของเสีย อย่างปัสสาวะ, อุจจาระ และเหงื่อ ระหว่างวันได้ การดื่มน้ำเรื่อย ๆ ระหว่างวัน จึงเป็นสิ่งสำคัญ และไม่ควรดื่มน้ำในปริมาณมากในครั้งเดียว อีกด้วย

 

สำหรับผู้ที่พึ่งเริ่มดื่ม น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) ควรดื่มน้ำอัลคาไลน์ ที่มีค่า pH เกือบจะเป็นกลาง ในปริมาณน้อย ก่อนในสัปดาห์แรก เพื่อให้เวลาร่างกายปรับตัวให้เข้ากับน้ำได้ หากดื่มแล้วไม่มีอาการผิดปกติใด จึงค่อยดื่ม น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water )  ที่มีค่า pH อยู่ที่ 9.0 เป็นประจำ แทนการดื่มน้ำเปล่าได้

 

สุขภาพที่ดี เริ่มได้ที่ตัวคุณ ด้วยความปรารถนาดีจาก   น้ำดื่มอัลคาไลน์ (น้ำด่าง) ตราแมนเนเจอร์ (Alkaline Water pH8.5+ By ManNature)

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ความแตกต่างของ น้ำไฮโดรเจน กับ น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water )

น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) กับมะเร็ง


Tag :


บทความที่แนะนำ