สดชื่น คืนสมดุลด้วย Alkaline Water pH8.5+ น้ำดื่มเพื่อสุขภาพ
Share: facebook_share สดชื่น คืนสมดุลด้วย Alkaline Water pH8.5+ น้ำดื่มเพื่อสุขภาพ line_share สดชื่น คืนสมดุลด้วย Alkaline Water pH8.5+ น้ำดื่มเพื่อสุขภาพ twitter_share สดชื่น คืนสมดุลด้วย Alkaline Water pH8.5+ น้ำดื่มเพื่อสุขภาพ messenger_share สดชื่น คืนสมดุลด้วย Alkaline Water pH8.5+ น้ำดื่มเพื่อสุขภาพ

สดชื่น คืนสมดุลด้วย Alkaline Water pH8.5+ น้ำดื่มเพื่อสุขภาพ


ทุกคนรู้กันดีว่าปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวันนั้นคืออย่างน้อย 8 แก้ว ทว่าแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกันทั้งด้านน้ำหนัก สุขภาพ รูปร่าง ทำให้ปริมาณการดื่มน้ำมีความแตกต่างกันไปด้วย การดื่มน้ำธรรมดาอาจจะไม่ได้มีประสิทธิภาพมากเมื่อเทียบกับการดื่มน้ำดื่มอัลคาไลน์

ทำไมการดื่มน้ำธรรมดาอย่างน้อย 8 ถึงไม่มีประสิทธิภาพมากนักเพราะแนวคิดที่ว่าคุณควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวันเป็นคำแนะนำทั่วไป แต่ก็ไม่ถูกต้องทั้งหมด ปริมาณน้ำที่คนเราจำเป็นต้องดื่มในแต่ละวันอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ได้แก่ อายุ เพศ น้ำหนักตัว ระดับกิจกรรม และสภาพอากาศ สถาบันทางการแพทย์แนะนำให้ผู้ชายกินน้ำประมาณ 3.7 ลิตร (ประมาณ 13 ถ้วย) ต่อวัน และผู้หญิงกินน้ำประมาณ 2.7 ลิตร (ประมาณ 9 ถ้วย) ต่อวัน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือต้องสังเกตว่าคำแนะนำนี้ไม่รวมถึงน้ำเท่านั้น แต่ยังรวมถึงของเหลวอื่นๆที่ไม่ใช่แค่น้ำเปล่าธรรมดาด้วย เช่น น้ำจากอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ นอกจากนี้สิ่งสำคัญอีกข้อคือต้องสังเกตด้วยว่าความต้องการน้ำของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ เช่น ระดับกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน สภาพอากาศที่ร้อนหรือเย็น และสุขภาพโดยรวมของแต่ละบุคคล ตัวอย่างเช่น คนที่เคลื่อนไหวร่างกายมากหรืออาศัยอยู่ในสภาพอากาศร้อนอาจต้องดื่มน้ำมากขึ้นเพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำเพียงพอมากกว่าคนที่นั่งทำงานอยู่ในอาคารที่มีสภาพอากาศเย็น

สรุปแล้ว แม้ว่าคำแนะนำโดยทั่วไปให้ดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวันอาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาปัจจัยแต่ละอย่างในการพิจารณาปริมาณน้ำที่คนเราจำเป็นต้องดื่มในแต่ละวัน สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าการคงความชุ่มชื้นอาจมาจากหลายแหล่ง ไม่ใช่แค่การดื่มน้ำเท่านั้น

ตอนนี้เชื่อว่าผู้อ่านได้รับรู้ข้อมูลของการดื่มน้ำธรรมดา แล้วน้ำดื่มอัลคาไลน์ที่เป็น “น้ำด่าง” นั้นคืออะไร น้ำด่างหรือที่เรียกว่าโซเดียมไฮดรอกไซด์(Sodium hydroxide: NaOH) เป็นสารประกอบอัลคาไลน์ที่เข้มข้นซึ่งมีประโยชน์หลายอย่างเมื่อนำมาใช้อย่างเหมาะสม ซึ่งประโยชน์บางประการของน้ำด่างมีดังนี้

  • การทำสบู่

น้ำด่างมักใช้ในกระบวนการทำสบู่ เมื่อผสมกับน้ำมันและไขมัน น้ำด่างจะเกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่เรียกว่าซาพอนิฟิเคชัน(Saponification) เป็นปฏิกิริยาของไตรกลีเซอไรด์ (triglyceride) ที่ถูกสลายพันธะเอสเทอร์ด้วยด่าง เช่น โซเดียมไฮดรอกไซด์ หรือ โพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ จะได้กลีเซอรอลและเกลือของกรดไขมัน หรือสบู่ซึ่งสมบัติละลายในน้ำได้

  • การทำความสะอาดท่อระบายน้ำ

น้ำด่างสามารถใช้ล้างสิ่งอุดตันในท่อระบายน้ำและท่อได้ เมื่อผสมกับน้ำ น้ำด่างจะสร้างความร้อนและละลายสารอินทรีย์ เช่น เส้นผมและไขมันที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดการอุดตันได้

  • การแปรรูปอาหาร

น้ำด่างใช้ในอุตสาหกรรมอาหารเพื่อแปรรูปอาหารบางประเภท เช่น มะกอก เพื่อให้ละลายความขมของมะกอกและทำให้อร่อยชุ่มน้ำขึ้น

  • การทำความสะอาดโลหะ

น้ำด่างสามารถใช้ทำความสะอาดโลหะ เช่น อะลูมิเนียม ทองเหลือง และทองแดง เมื่อผสมกับน้ำ น้ำด่างจะสร้างสารละลายด่างเข้มข้นที่สามารถขจัดคราบไขมัน น้ำมัน และสิ่งปนเปื้อนอื่นๆที่เกาะอยู่ออกจากพื้นผิวโลหะได้

  • การผลิตสารเคมี

น้ำด่างใช้ในการผลิตสารเคมีหลายชนิด รวมถึงผงซักฟอก สิ่งทอ และเยื่อกระดาษและกระดาษ

สดชื่น คืนสมดุล ด้วย Alkaline Water pH8.5+ น้ำดื่มเพื่อสุขภาพ

จากข้างต้นจะเห็นได้ว่าน้ำด่างไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อย่างใดแต่มันได้อยู่รอบๆตัวเราและมีคุณประโยชน์มากมาย เช่นเดียวกันกับน้ำดื่มอัลคาไลน์ที่เป็นน้ำด่างที่มีค่า pH สูงกว่าน้ำดื่มทั่วไปซึ่งน้ำดื่มทั่วไปจะมีค่า pH ที่เป็นกลางอยู่ที่ 7.0 ในขณะที่น้ำด่างจะมีค่า pH อยู่ที่ 8.0-9.0 แล้วการดื่มน้ำดื่มอัลคาไลน์ที่มีค่า pH สูงนั้นมีประสิทธิภาพต่อร่างกายได้อย่างไร? เพราะในร่างกายปกติของมนุษย์จะมีค่า pH อยู่ที่ 7.4 ซึ่งเป็นด่างอ่อนๆ ดังนั้นการดื่มน้ำด่างที่มีค่า pH ที่ใกล้เคียงกันจะช่วยปรับสมดุลของร่างกายผ่านการดูดซึมแร่ธาตุ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้ดีขึ้น การที่จะมีสุขภาพที่ดีนั้นร่างกายจำเป็นต้องมีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสารประกอบที่สามารถช่วยป้องกันหรือชะลอความเสียหายต่อเซลล์ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นโมเลกุลที่ผลิตขึ้นจากกระบวนการเมตาบอลิซึมต่างๆ และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น มลพิษและรังสี และนี่คือประโยชน์ส่วนหนึ่งของสารต้านอนุมูลอิสระ

  • ลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง

สารต้านอนุมูลอิสระสามารถช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งสามารถนำไปสู่การเกิดโรคเรื้อรัง เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ และโรคอัลไซเมอร์

  • ปรับปรุงการทำงานของภูมิคุ้มกัน

สารต้านอนุมูลอิสระสามารถช่วยสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันโดยการปกป้องเซลล์ภูมิคุ้มกันจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ

  • ฤทธิ์ในการต่อต้านริ้วรอย

สารต้านอนุมูลอิสระสามารถช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายและการอักเสบ ซึ่งอาจนำไปสู่กระบวนการชรา

  • สุขภาพผิวดีขึ้น

สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซีและอีสามารถช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากรังสียูวีและปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ และอาจช่วยปรับปรุงเนื้อผิวและลดริ้วรอย

  • การป้องกันสารพิษในสิ่งแวดล้อม

สารต้านอนุมูลอิสระสามารถช่วยปกป้องร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากสารพิษในสิ่งแวดล้อม เช่น มลพิษและรังสี

  • สุขภาพตาดีขึ้น

สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ลูทีนและซีแซนทีนสามารถช่วยปกป้องดวงตาจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ และอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคตาที่เกี่ยวข้องกับอายุ เช่น ต้อกระจกและจอประสาทตาเสื่อม

  • ลดการอักเสบ

สารต้านอนุมูลอิสระสามารถช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคข้ออักเสบและโรคหอบหืด

โดยรวมแล้ว สารต้านอนุมูลอิสระสามารถให้ประโยชน์ต่อสุขภาพได้หลากหลาย ตั้งแต่การลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังไปจนถึงการปรับปรุงสุขภาพผิวหนังและดวงตา สารต้านอนุมูลอิสระสามารถพบได้ในอาหารหลายชนิด รวมทั้งผักและผลไม้ รวมทั้งในอาหารเสริม และในน้ำดื่มอัลคาไลน์ที่เป็นตัวช่วยในการสร้างสารเหล่านี้

 

นอกจากนี้น้ำดื่มอัลคาไลน์ยังช่วยให้ร่างกายเกิดการดูดซึมแร่ธาตุซึ่งเป็นกระบวนการที่จำเป็นสำหรับการรักษาสุขภาพโดยรวมและความเป็นอยู่ที่ดี โดยแร่ธาตุนั้นมีความสำคัญต่อการทำงานต่างๆ ของร่างกาย รวมทั้งการเจริญเติบโตของกระดูก การทำงานของเส้นประสาท และการหดตัวของกล้ามเนื้อ ประโยชน์ของการช่วยให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุมีดังนี้

กระดูกแข็งแรง

แร่ธาตุต่างๆ เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียม จำเป็นต่อการสร้างและบำรุงกระดูกให้แข็งแรง การดูดซึมแร่ธาตุเหล่านี้ผ่านอาหารเพื่อสุขภาพ, อาหารเสริม หรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุนและภาวะอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระดูกได้

การทำงานของเส้นประสาทดีขึ้น

แร่ธาตุต่างๆ เช่น โซเดียม โพแทสเซียม และแคลเซียม มีความสำคัญต่อการทำงานของเส้นประสาทที่เหมาะสม ช่วยส่งสัญญาณระหว่างสมองและร่างกาย ทำให้เกิดการเคลื่อนไหว ความรู้สึก และการทำงานอื่นๆ ที่เหมาะสม

การทำงานของกล้ามเนื้อดีขึ้น

แร่ธาตุจำพวกแมกนีเซียมและโพแทสเซียมมีความสำคัญต่อการทำงานของกล้ามเนื้ออย่างเหมาะสม รวมถึงการหดตัวและการผ่อนคลาย การดูดซึมแร่ธาตุเหล่านี้ผ่านอาหารเพื่อสุขภาพ, อาหารเสริม หรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพสามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการกีฬาและลดความเสี่ยงของตะคริวที่กล้ามเนื้อและปัญหาอื่นๆ

สุขภาพหัวใจดีขึ้น

แร่ธาตุต่างๆ เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม และแคลเซียมมีความสำคัญต่อการรักษาสุขภาพของหัวใจ ช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต และลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด

สุขภาพโดยรวมดีขึ้น

การดูดซึมแร่ธาตุที่มีประโยชน์ ผ่านอาหารเพื่อสุขภาพ, อาหารเสริม หรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพสามารถช่วยปรับปรุงสุขภาพโดยรวมและความเป็นอยู่ที่ดี รวมถึงลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน มะเร็ง และโรคกระดูกพรุน

อีกสิ่งสำคัญของการดูดซึมแร่ธาตุที่ต้องสังเกตคือ การดูดซึมอาจได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ อาหาร และสุขภาพโดยรวม ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องรักษาสมดุลของอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งรวมถึงอาหารที่อุดมด้วยสารอาหารที่หลากหลายเพื่อให้แน่ใจว่ามีการดูดซึมแร่ธาตุที่เพียงพอ นอกจากนี้ อาจจำเป็นต้องใช้อาหารเสริม, มาตรการอื่นๆหรือการดื่มน้ำดื่มอัลคาไลน์ เพื่อจัดการกับการขาดสารอาหารใดๆ ที่อาจส่งผลต่อการดูดซึมแร่ธาตุ

น้ำดื่มอัลคาไลน์จึงมีประโยชน์ต่อเด็กและผู้ใหญ่ ทุกเพศและทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นการปรับสมดุลกรดเกินในร่างกาย ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อม ช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย กำจัดความเหนื่อยล้าและอ่อนเพลีย เสริมสร้างความชุ่มชื่นได้ดีกว่าน้ำดื่มทั่วไปอีกด้วย และยังมีแร่ธาตุที่มีประโยชน์ เช่น โพแทสเซียม, แมกนีเซียม, แคลเซียม

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

แค่ดื่มน้ำให้เป็นก็ดีต่อร่างกาย ขอแนะนำ น้ำดื่มอัลคาไลน์

รักษาสุขภาพ ต้องเริ่มจากการดื่ม น้ำอัลคาไลน์

 


บทความที่แนะนำ