โดยปกติแล้ว ร่างกายของเรา นันจะสูญเสียน้ำ ประมาณวันละ 2.5 ลิตร โดยผ่านทางเหงื่อ ลมหายใจ และการขับถ่าย แต่ถ้าเมื่อไหร่ ที่ร่างกายสูญเสียน้ำ ในปริมาณ ที่มากเกินไป ก็จะทำให้เสี่ยง ต่อการเกิด "ภาวะขาดน้ำ" ได้ และส่วนใหญ่ การใช้ชีวิตการทำงาน ในแต่ละวัน มักจะใช้เวลา หมดกับการทำงาน จนลืมความสำคัญอย่างเช่น การดื่มน้ำ ไปนั่นเอง
ภาวะขาดน้ำ คืออะไร ?
ภาวะขาดน้ำ ( Dehydration ) นั้นเกิดจาก การที่ร่างกายสูญเสียน้ำ จากทั้ง หลอดเลือด และเซลล์ของร่างกาย ที่มากกว่าที่ได้รับ โดยภาวะขาดน้ำ มักจะสัมพันธ์ กับระดับน้ำตาลในเลือด เมื่อระดับน้ำตาล ในเลือดสูง ก็จะมีการดึงน้ำ ออกจากเซลล์ เพื่อลดระดับน้ำตาล หากปล่อยให้ร่างกาย ขาดน้ำมาก ๆ โดยไม่ได้รับการชดเชยภายในเวลาที่เหมาะสม ก็จะทำให้เกิดผลเสียตามมาได้
ทำไม ร่างกายของเรา ถึงขาดน้ำ ?
สาเหตุของการขาดน้ำ มีตั้งแต่ อาเจียน ท้องเสีย การออกกำลังกาย หรือแม้แต่ การใช้ยาบางชนิด และถึงแม้ว่า เด็กทารก และผู้สูงอายุ จะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยง ต่อการเกิด ภาวะขาดน้ำ ได้ง่าย เนื่องจากร่างกาย มีปริมาณน้ำไม่มาก หรือผู้ป่วย โรคเรื้อรังต่าง ๆ อย่าง โรคไต หรือ โรคเบาหวาน ที่แค่การกระตุ้น เพียงเล็กน้อย นั่นก็อาจทำให้ร่างกาย ขาดน้ำได้ง่าย กลุ่มผู้ที่ชอบออกกำลังกายหนัก ๆ เอง ก็ต้องระวัง การขาดน้ำ ที่เกิดจากการออกกำลังกาย ด้วยเช่นกัน
เมื่อร่างกายขาดน้ำ จะเกิดอะไรขึ้น ?
หากร่างกายขาดน้ำ จะทำให้เซลล์เนื้อเยื่อ และอวัยวะต่าง ๆ ไม่สามารถทำงาน ได้ตามปกติ รวมถึงอาจกระตุ้น ให้เกิดภาวะแทรกซ้อน อื่น ๆ ตามมาได้ เช่น ตะคริวแดด ลมแดด สมองบวม เนื่องจาก สมองจะดึงน้ำ เข้าเซลล์จำนวนมาก และยังส่งผลกระทบ ถึงไต และระบบทางเดินปัสสาวะได้ เช่น การติดเชื้อ ที่ระบบทางเดินปัสสาวะ นิ่วในไต หรือไตวาย และหากเกิด ภาวะขาดน้ำบ่อย ๆ เป็นระยะเวลานาน สามารถทำให้เกิดอาการชักได้ด้วย ซึ่งเป็นผล มาจากแร่ธาตุในร่างกาย ที่ไม่สมดุล อาทิ โพแทสเซียม และโซเดียม เป็นต้น ทำให้กล้ามเนื้อหดตัว หรือว่าทำให้หมดสติได้
อาการที่ควรสังเกต
- กระหายน้ำ
- อ่อนเพลีย / เหนื่อยง่าย
- ปวดศรีษะ / วิงเวียนศรีษะ
- ปัสสาวะน้อย 4 - 6 ชั่วโมง / 1 ครั้ง
- ชีพจรเต้นเร็ว หายใจ หอบถี่
- ความดันโลหิตต่ำ บางรายอาการรุนแรง จนเกิดอาการชักได้
เมื่อร่างกายขาดน้ำ ดูแลตัวเองอย่างไร ?
- ควรดื่มน้ำ ให้พอเพียง ต่อความต้องการ ภายในร่างกาย 4 - 8 แก้ว ต่อวัน ( แก้วน้ำขนาด 200 มล. )
- หากร่างกายขาดน้ำ เนื่องจาก อาการท้องเสีย ควรดื่ม น้ำเกลือแร่ เพื่อลดอาการอ่อนเพลีย จากการสูญเสียน้ำ ในร่างกายไปด้วย
- หลีกเลี่ยงสถานที่ ที่ร้อนอบอ้าว หาจุดที่อากาศถ่ายเท ร่มรื่น เพื่อระบายความร้อน ออกจากร่างกาย
เห็นได้ว่า การที่ร่างกายเกิด ภาวะขาดน้ำ เป็นสิ่งที่อันตราย และควรหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นค่ะ วันนี้ จึงอยากจะแนะนำ ให้ทุกท่าน ได้ดื่มน้ำที่ดี และเกิดประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น น้ำด่าง น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) นั่นเองค่ะ
ขอแนะนำ น้ำด่าง น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) ตราแมนเนเจอร์ (Alkaline Water pH8.5+ By ManNature) น้ำดื่มสะอาด ดีต่อสุขภาพ จึงขอเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ให้ทุก ๆ คน ได้ตัดสินใจในการเลือกซื้อ สั่งซื้อสินค้าได้เลยนะคะ
ข้อแนะนำ วิธีดูแลตนเอง ด้วย น้ำด่าง น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water )
ซึ่ง น้ำด่าง น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) มีประโยชน์ต่อทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่วัยเด็ก จนถึงผู้ใหญ่
- วัยเด็กช่วงอายุ 4 – 12 ปี ควรดื่มน้ำ ที่ค่า pH 8.5 - 9
- ผู้ใหญ่ที่ดื่มน้ำด่างช่วงแรก ๆ ควรเริ่มต้นที่ pH 8.5 - 9 ก่อน หลังจากนั้น 2 สัปดาห์ สามารถดื่มที่ 9 pH ได้เป็นประจำ และหากออกกำลังกายร่วมด้วย แนะนำ ที่ pH 9.5
- หากต้องการนำน้ำด่าง ไปใช้ในการล้างผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ หุงข้าว ชงกาแฟ สามารถทำได้ แต่ต้องใช้น้ำในระดับ pH ที่ 10
อย่าลืมดูแลร่างกาย ด้วย น้ำด่าง น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water ) กันนะคะ
อ่านบทความเพิ่มเติม
สดชื่น ต้อนรับ เช้าวันใหม่ ด้วย น้ำอัลคาไลน์ ( Alkaline Water )
บทความที่แนะนำ